การบ้าน การเมือง
ปัญหาทางโครงสร้าง กับการแก้ไขทางนโยบาย
________________________________________
"ความยากจนเป็นปัญหาทางโครงสร้าง" ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมเกิดจากโครงสร้างทางเศรษฐกิจและสังคมไม่เป็นธรรม ก่อให้เกิด ภาวะมือใครยาวสาวได้สาวเอา เกิดช่องว่างระหว่างคนรวย(จำนวนน้อย) กับคนจน(จำนวนมาก) เกิดการ ครอบครองทรัพยากร ปัจจัยการผลิตไว้ในมือของคนจำนวนน้อย "กฎหมายไม่เป็นกฎหมาย คนไม่เคารพ กฎหมาย สังคมไม่เป็นนิติรัฐเพราะมีอภิสิทธิ์ชนที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย หรืออยู่เหนือกฎหมาย" ฯลฯ เหล่านี้รวมๆ เรียกว่าเป็นปัญหาทางโครงสร้าง การพูดถึงปัญหาทางโครงสร้าง หรือผู้ที่ประกาศชี้ว่าต้นตอ ของปัญหาคือโครงสร้างจึงหมิ่นเหม่ที่จะได้รับการเกลียดชัง ถูกระแวงหรือเป็นเป้าหมายที่จะต้องถูกกำจัด จากผู้ได้ประโยชน์หรือได้เปรียบจากปัญหาทางโครงสร้าง
สังคมไทยได้เผชิญกับปัญหาทางโครงสร้างจนก่อให้เกิดวิกฤตและสร้างความแตกแยก ความขัดแย้งตลอดจน ถึงความรุนแรงขึ้นในสังคมหลายต่อหลายครั้ง นับแต่รูปธรรมที่เกิดขึ้นมาในปี พ.ศ.2475,2500,2516, 2519,2535 ซึ่งถือเป็นพัฒนาการทางสังคมที่มีเนื้อหาที่เป็นประวัติศาสตร์ เป็นบทเรียน เป็น "ต้นทุน ทางสังคม" ที่สำคัญที่ทรงคุณค่าที่ประชาชนไทยควรได้รับการสื่อสาร ถ่ายเทข้อมูล เพราะ "ข้อมูล" จะก่อให้เกิด "อำนาจวิเคราะห์" นำไปสู่การแก้ไขปัญหาที่ตรงจุด โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างที่สำคัญในปี 2540 ที่เรียกว่า "การปฏิรูปทางการเมือง" และได้มีขบวนการให้ได้มาซึ่ง "รัฐธรรมนูญปี 2540" ที่ขนาน นามกันว่าเป็นรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน เป็นการได้มาซึ่งโครงสร้างที่ยิ่งใหญ่ ที่เป็นความหวังภายใต้ขบวน การที่ละเอียดอ่อน ใช้สติปัญญา ใช้กระบวนการมีส่วนร่วมหลายระดับ
และที่สำคัญ มีการใช้ระยะเวลาที่ยาวนานพอสมควร ไม่สุกเอาเผากิน ไม่หักหาญน้ำใจกันมากนัก และที่สำคัญ "สาเหตุต้นตอของปัญหาถูกหยิบยกขึ้นมาตีแผ่ทุกแง่ทุกมุม" จึงมีข้อสรุปร่วมว่า ปัญหานั้นๆ จะต้องได้รับการ แก้ไขด้วยวิธีนั้นๆ ซึ่งแตกต่างหลากหลายรูปแบบและวิธีการ ไม่ว่าที่เกี่ยวข้องกับนักการเมือง พรรคการเมือง วุฒิสภา หรือองค์กรอิสระต่างๆ
สังคมไทยวันนี้เปรียบเสมือนเรารื้อบางส่วนของโครงสร้างของบ้านหลังเก่าที่เราอยู่รวมกันมาหลายปี และมอง ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะมีหลายๆ ส่วนที่ชำรุด ไม่ปลอดภัยในระยะยาว ได้มีการแหวกพื้นที่เพื่อลงตอม่อ คาน เสาเข็ม จนถึงก่อเสาที่มั่นคงและมุงหลังคาด้วยวัสดุที่คงทน ดังนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องหลังคารั่วเมื่อฝนตก มีการแบ่งสัดส่วนของห้องที่อยู่ของผู้ที่อาศัยร่วมกัน มีกติกาหลักๆ ที่ทุกคนรับรู้และยอมรับ(รัฐธรรมนูญ) เหลือแต่รายละเอียดของส่วนต่างๆ ที่ยังไม่สมบูรณ์(กฎหมายลูกต่างๆ) กรรมการ หมู่บ้านหรือกลุ่มผู้รวมตัว กันอาสาเข้ามาทำให้บ้างหลังใหญ่นี้ให้สมบูรณ์ ได้นำเสนอแนวทาง(นโยบาย) แล้วกลุ่มคนกลุ่มนี้ก็ได้รับ การตัดสินให้เป็นผู้เข้ามาต่อเติมเสริมแต่ง แก้ปัญหาที่ค้างคา สร้างความมั่งคั่งสมบูรณ์ ความสงบเรียบร้อย ความเป็นธรรม ความยุติธรรมให้แก่สมาชิกในบ้านหลังใหญ่นี้ ซึ่งในปัจจุบันคือพรรคไทยรักไทยกับพรรค ร่วมภายใต้การนำของ ฯพณฯ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร
กลุ่มคนที่ตระหนักถึง "ปัญหาเชิงโครงสร้าง" ต่างตระหนักดีว่าเป็นปัญหาที่หมักหมมมานาน ต้องอดทน และต้องใช้เวลาในแก้ไข มิมีผู้ใดที่พูดถึงเรื่องนี้แล้วประกาศว่า เรื่องนั้นเรื่องนี้กรรมการหมู่บ้าน(รัฐบาล) จะ ต้องแก้ไขให้เสร็จ แก้ให้ได้ภายในวันนี้พรุ่งนี้ "การแก้ไขตามแนวนโยบาย" คือสิ่งที่ทุกคนให้เกียรติ เพราะท่าน ได้บอกไว้ก่อนอาสาตัวเข้ามาทำงาน แม้จะมีหลายเรื่องเป็นเรื่องกว้างๆ คลุมเครือบ้าง ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แล้วก็มาตามดูตอนท่านทำงานในเรื่องประเด็นนั้นๆ
แนวนโยบายจึงเป็นประเด็นสำคัญที่จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาหรือเป็นตัวเพิ่มปัญหาได้หากปรากฏชัดว่า ขัดแย้งกับแบบแปลนของโครงสร้างที่ได้กำหนดไว้(รัฐธรรมนูญ) สถานการณ์ของรัฐบาลในวันนี้กำลังตก อยู่ในภาวะของการปรับปรุง เสริมแต่ง หรือสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ที่ขัดแย้งกับแบบแปลนที่สังคมใหญ่ได้ร่วม กันออกแบบ การไม่ให้ความสำคัญกับกฎหมายลูกต่างๆ ตามรัฐธรรมนูญ ที่จะทำให้รัฐธรรมนูญ มีความ สมบูรณ์
การไม่ให้ความสำคัญกับกลไกองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ด้วยท่าที ด้วยวาจา ด้วยอารมณ์ ล้วนจะนำ ไปสู่การสร้างปัญหา สร้างความวุ่นวาย ไม่สงบสุขขึ้นในประเทศไทยได้ แล้วแบบแปลน(รัฐธรรมนูญ) ก็ได้ ระบุไว้ตายตัวว่าท่านจะมีอำนาจทำอะไรตามใจ(แนวนโยบาย) ของท่านไปจนครบ 4 ปี แล้วค่อยมาว่ากันใหม่ เหมือนท่านกำลังตกแต่งบ้านหลังใหญ่ซึ่งมีหลายครอบครัวแยกกันอยู่แต่ละห้อง ในขณะที่อีกหลายๆ ห้องยัง ถูกแดดส่อง ลูกเห็บสาด เขาต้องการฝากั้น แต่ท่านส่งม่านหรือมู่ลี่มาให้ เขาก็มีสิทธิปฏิเสธว่าไม่สอดคล้อง หรือในขณะที่เขาขาดเสื่อ หมอน มุ้ง ท่านบอกว่าไม่มีให้ แต่ขณะที่ห้องตรงข้ามท่านสั่งติดแอร์ ขนเฟอร์นิเจอร์ หรูๆ แพงๆ เข้าห้องนั้นผ่านหน้าห้องให้สมาชิกอีกห้องนั่งมองตาปริบๆ
ในขณะที่อีกห้องกำลังพูดคุยถกเถียงเรื่องปัญหามากห้องเรื่องผลกระทบ ท่านก็ตวาดให้หยุดเพราะหนวกหูและ รำคาญ ฯลฯ ซ้ำขู่อีกว่าหากไม่ยอมหยุดจะใช้อำนาจที่ท่านมี เรียกยามให้มาจัดการ ซึ่งท่านเริ่มใช้ยามไปจัด การมาแล้วหลายห้อง ท่าทีเช่นนี้จะเป็นอันตรายอย่างยิ่งทั้งต่อตัวท่านเองและสังคมโดยรวมของชุมชนแห่งนี้ เพราะชุมชนแห่งนี้ต่างรับรู้ร่วมกันอย่างกว้างขวางแล้วว่า อำนาจหน้าที่ของท่านมีขอบเขตแค่ไหน อย่างไร และสมาชิกก็ตระหนักดีว่าตัวเองมีสิทธิ มีหน้าที่ที่ออกแบบตกลงกันร่วมกันไว้อย่างไร
ความสับสนในประเด็นเรื่องโครงสร้าง ปัญหาทางโครงสร้างกับแนวนโยบายของรัฐบาลปัจจุบัน ผนวกกับ อารมณ์ คำพูด ทัศนคติของท่านนายกรัฐมนตรี ผมมีความรู้สึกว่าเป็นความล่อแหลมหมิ่นเหม่อย่างยิ่ง ต่อโครงสร้างที่สังคมไทยร่วมกันผลักดันออกแบบร่วมกันมาด้วยความยากลำบาก ตั้งสติและใจเย็นๆ หน่อย ได้ไหมครับท่านนายกรัฐมนตรี และผมรู้สึกว่าการอยู่ใกล้วัดหรือเคยเป็นเด็กวัดไม่ใช่ตัวชี้วัดภาวะแห่ง "พุทธะ" ในจิตใจ การมีคุณธรรม มีเมตตากรุณา เกิดจากการปฏิบัติตามหลักธรรมคำสอนอย่างเคร่งครัดและจริงจัง เป็นภาวะที่ผู้ปฏิบัติจะรู้จากจิตของตัวเอง และคนภายนอกจะสัมผัสได้ด้วยวิถี วัตรปฏิบัติอื่นๆ ซึ่งไม่ใช่คำพูด อย่างเดียว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น