นาฬิกา

เซี่ยมซีหลวงพ่อพระชีว์

สรุปตลาดหุ้น

ตารางฟุตบอล

สร้างรายได้เพียงง่ายๆ

Subscribe in a reader Google AdSense คือบริการจาก Google ที่ให้ผู้ที่มีเว็บไซต์ สามารถหารายได้โดยการนำ Code ที่ได้จากการสมัครเป็นสมาชิกของ Google มาใส่ไว้ที่เว็บไซต์ของตนเอง ซึ่ง Code นั้นจะเป็น โฆษณาที่ส่งมาจาก Google โดยโฆษณานั้น ๆ จะเป็นโฆษณาที่มีเนื้อหาสอดคล้องกับเนื้อหาของเว็บไซต์ของคุณ ตัวอย่างเช่นถ้าเว็บไซต์ของคุณเป็นเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว โฆษณาที่ส่งมาจาก Google ก็อาจเป็นเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับ โรงแรม,สายการบิน เป็นต้น

ข้อความ

ข้อความ

วันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2554

น้ำผลไม้ตามกรุ๊ป


น้ำผลไม้ที่ควรดื่มตามกรุ๊ปเลือด
คนเลือดกรุ๊ปโอ

ส่วนมากจะมีกรดในกระเพาะอาหารสูง สามารถย่อยอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ได้อย่างรวดเร็ว แต่ไม่ควรกินอาหารจำพวกแป้งมากเกินไป เพราะจะ ย่อยยาก เสี่ยงต่อโรคเบาหวานและโรคอ้วน
เครื่องดื่มที่เหมาะกับเลือดกรุ๊ปโอคือ
- น้ำสับปะรด
- น้ำลูกพรุน
แต่ไม่ควรดื่มน้ำแอปเปิล น้ำส้ม น้ำกะหล่ำปลี
เลือดกรุ๊ปเอ
เรียกว่าตรงข้ามกับกรุ๊ปโอ แทบจะทุกอย่าง เพราะเลือดกรุ๊ปนี้จะมีกรดในกระเพาะอาหารต่ำ จึงเหมาะกับอาหารมังสวิรัติและควรหลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงอาหารจำพวกอาหารสำเร็จรูป ช่น
- ไส้กรอก
- แฮม
เพราะอาหารจำพวกนี้มีสารดินประสิวที่ไปกระตุ้นให้เกิดมะเร็งในกระเพาะอาหาร
เครื่องดื่มที่เหมาะสมกับคนเลือดกรุ๊ปเอก็คือ
- น้ำแอปพริคอต
- น้ำแคร์รอต
- น้ำเซเลอรี
- น้ำเกรปฟรุต
- น้ำสับปะรด
- น้ำมะนาว
เพราะมี วิตามินซีสูง แต่ไม่ควรดื่มน้ำส้ม น้ำมะละกอ และน้ำมะเขือเทศ
เลือดกรุ๊ปบี
เป็นกรุ๊ปเลือดที่สามารถต้านทานโรคมะเร็งและโรคหัวใจได้ แต่ยังมีปัญหาเรื่องภูมิคุ้มกันของร่างกาย
จึงควรกินอาหารจำพวก
- ผักใบเขียว
- ตับ
- ไข่
- นมไขมันต่ำ
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญ
- น้ำกะหล่ำปลี
- น้ำแครนเบอร์รี่
- น้ำองุ่น
- น้ำมะละกอ
- น้ำสับปะรด
เป็นเครื่องดื่มที่เหมาะ แต่ให้ระวังการดื่มน้ำมะเขือเทศ
เลือดกรุ๊ปเอบี
คนเลือดกรุ๊ปนี้ เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งในกระเพาะอาหาร จึงควรรับประทานอาหารที่มีวิตามินซี เช่น
- บร็อกโคลี่
- เชอร์รี่
- ส้มโอ
- เกรปฟรุต
- กะหล่ำปลี
และดื่มน้ำแคร์รอต
- น้ำเซเลอรี
- น้ำแครนเบอร์รี่
- น้ำองุ่น
- น้ำมะละกอ
เพราะช่วยต้านมะเร็งได้ แต่ไม่ควรดื่มน้ำส้มเพราะทำให้ย่อยยาก
ผลไม้ล้างพิษ
การงาน อาชีพ เทคโนฯ no comments 
ในภาวะปัจจุบันมีหลายปัจจัยที่ทำให้เรา ต้องเลือกกิน เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่เข้าสู่ร่างกายแล้วย่อมมีผลตามมาทั้งสิ้น อาหารชนิดเดียวกันบางครั้งก็มีทั้งคุณทั้งโทษ วันนี้horapa.comขอแนะนำผลไม้ที่ใช้ล้างพิษในร่างกายค่ะ ผลไม้เหล่านี้หาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาดทั่วไปและราคาไม่แพงด้วยค่ะ
แอปเปิ้ล
เป็นผลไม้ที่ดีที่สุดสำหรับการขจัดของเสียออกจากร่างกาย สารเปกตินในแอปเปิ้ลจะช่วยนำสารพิษไปกำจัดทิ้ง ทั้งยังป้องกันไม่ให้โปรตีนในลำไส้เกิดการบูดเน่า แอปเปิ้ลยังมีเส้นใยมากจะทำหน้าที่เป็นไม้กวาด ทำความสะอาดลำไส้ช่วยให้ตับและระบบย่อยทำงานได้ดียิ่งขึ้น กระตุ้นน้ำย่อย นอกจากนี้ยังมีวิตามินและเกลือแร่ และยังเหมาะกับผู้ที่กำลังลดน้ำหนักอีกด้วยค่ะ
องุ่น
เป็นสารฟอกล้างสำหรับผิวหนัง ตับ ลำไส้และไตโดยเฉพาะ เนื่องจากองุ่นมีคุณสมบัติรักษาน้ำมูกที่จะออกมาจากเยื่อเมือกต่างๆในร่าง กาย องุ่นยังให้พลังงานสูงและนำไปใช้ได้ง่าย เกลือแร่อุดม ดังนั้นจึงช่วยบำรุงเลือดและซ่อมสร้างเซลล์ในร่างกาย
สับปะรด
มีเอนไซม์โปรเมลินสูง เอนไซม์ตัวนี้จะช่วยการทำงานของกรดไฮโดรคลอริกในกระเพาะ และช่วยทำให้ของเสียที่เป็นโปรตีนแตกตัวได้เร็วขึ้น เชื่อกันว่าสับปะรดช่วยรักษาอาการอักเสบในทางเดินอาหาร ช่วยในการซ่อมแซมส่วนต่างๆที่สึกหรอ ช่วยการทำงานของต่อมไร้ท่อและช่วยกำจัดน้ำมูก
มะละกอ มะม่วง แตงโม
ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันแต่มะม่วงมีสารสำคัญน้อยกว่ามะละกอเล็กน้อย ผลไม้ทั้งสองชนิดมีเอนไซม์ชื่อปาเปน ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับน้ำย่อยเปปซินในกระเพาะอาหาร ดังนั้นมันจึงช่วยทำให้ของเสียที่เป็นโปรตีนแตกตัวได้เร็วขึ้นเช่นเดียวกับ โปรเมลิน ทั้งมะละกอและมะม่วงดีสำหรับทำความสะอาดลำไส้และช่วยย่อยอาหาร เชื่อกันว่ามะละกอยังช่วยลดอาการซึมเศร้าได้อีกด้วย แตงโมมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ดังนั้นจึงช่วยฟอกล้างร่างกายได้เป็นอย่างดี ใช้รักษาแผลในกระเพาะ ลดความดันเลือดสูง ทำให้สบายท้อง น้ำคั้นจากเปลือกของแตงโมและเมล็ด หากดื่มก่อนกินเนื้อแตงโมในมื้ออาหารสักครึ่งชั่วโมง จะทำให้ได้ประโยชน์สูงสุด เนื่องจากเปลือกของแตงโมอุดมด้วยคลอโรฟิลล์และเมล็ดอุดมด้วยวิตามิน

วันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2554

วิธีทำน้ำส้มสายชูหมัก

วันอังคาร

การทำ น้ำส้มสายชูหมัก

"ลิขิตฟ้า หรือจะสู้ มานะคน"



วันนี้ workdeena จะแนะนำการทำ "น้ำส้มสายชูหมัก" ในบ้านเราโดยทั่วไปก็จะมีเพียงน้ำส้มสายชูกลั่น เป็นน้ำใสๆ สีขาว และมีไม่กี่ยี่ห้อ ที่เป็นที่ยอมรับ แต่ในต่างประเทศมีน้ำส้มสายชูมากมายหลายชนิด และมีหลายสี แล้วยังทำจากวัถุตดิบหลายอย่าง สูตรในการทำน้ำส้มสายชูในต่างประเทศ เขาจะเก็บเป็นความลับขอตะกูลเลยทีเดียว

บางคนก็ใช้วัถุตดิบชนิดเดียวกัน แต่ก็ได้น้ำส้มสายชูที่แตกต่างกันทั่งสี, กลิ่น, รส บางครอบครัวทำเป็นอุตสาหกรรมเล็กๆในครัวเรือน แต่มียอดการส่งซื้อไม่เล็กเลย บางคนก็ทำเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ส่งออกกันเป็นเรื่องเป็นราว นั้นก็เพราะความแปลกใหม่ของน้ำส้มสายชู

เพื่อนๆ ก็สามารถนำมาทำเป็นอาชีพอิสระได้ สูตรที่ workdeena จะบอกต่อไป เป็นสูตรการทำน้ำส้มสายชู แบบไทยๆ ซึ่งเป็นภูมิปัญญาของคนสมัยก่อน ถ้าเพื่อนๆ อยากนำไปดัดแปลง หรือลองทำ เพื่ออาชีพอิสระ workdeena ก็ยินดีอย่างยิ่ง

- การทำน้ำส้มสายชูนั้น สามารถทำได้จากวัตถุดิบหลายอย่าง เช่น
  • ข้าว
  • องุ่น
  • แอปเปิล
  • ผลไม้รวม
  • มะพร้าว
  • ปาล์ม
  • ลูกเกด
  • น้ำผึ้ง
  • น้ำอ้อย
  • น้ำสับปะรด

และยังสามารถใช้วัถุตดิบอื่นๆ ได้อีกนอกเหนือจาำกที่ workdeena ได้บอกไป เรามาดูวิธีการทำน้ำส้มสายชูหมักกันดีกว่า
ส่วนผสม - น้ำสัมสายชูจากน้ำอ้อย
  1. น้ำอ้อย 1ส่วน
  2. น้ำเปล่า 8 ส่วน
  3. ลูกแป้งข้าวหมาก 1/2 ลูก

วิธีทำ
  • ให้นำน้ำอ้อยมาผสมรวมกันกับน้ำเปล่า คนให้เข้ากัน
  • และให้ใส่ภาชนะที่สะอาด เช่น โหลแก้ว
  • หลังจากนั้นให้เติม ลูกแป้งข้าวหมากบดละเอียดลงไป
  • แล้วปิดปากโหล(ไม่ควรใช้ที่ปิดที่เป็นโลหะ) เก็บขวดโหลไว้ในที่อบอุ่น ทิ้งไว้ประมาณ 15 วัน ก็จะได้น้ำส้มสายชู ที่มีกลิ่นหอมของน้ำอ้อย แต่ยังกินไม่ได้่ ต้องนำมากรองโดยผ้าขาวบางเสียก่อน แต่บางคนก็เอามาต้มก่อนแล้วทิ้งไว้ให้ตะกอนนอนก้น แล้วก็ใช้ผ้าขาวบางกรอง จะได้น้ำส้มสายชูที่ใส

- นี่คือภูมิปัญญาของชาวบ้าน ที่ workdeena ได้เรียนรู้มาจากคนใกล้ชิด ถ้าใครลองเ

วิธีทำใส่กรอก

วันเสาร์

ไส้กรอกอีสาน

"ลิขิตฟ้า หรือจะสู้ มานะคน"

ไส้กรอกอีสาน อาชีพแบบบ้านๆ ที่ไม่ควรมองข้าม



วันนี้ workdeena นำอาชีพเสริมอีกชนิดหนึ่ง ที่สามารถทำรายได้ให้เราดีพอสมควร ไม่ว่าคุณอยู่ที่ไหนก็ขายได้ นั้นคือการทำ "ไส้กรอกอีสาน" เพื่อนๆ สามารถทำไส้กรอกอีสานเพื่อขายส่ง ตามร้านขายของชำ หรือร้านขายกับข้าวทั่วไปก็ได้ หรือจะย่างขายเองก็ได้เช่นกัน แต่ถ้าเพื่อนๆ อยากทำอาชีพนี้ให้สำเร็จ ต้องมีสูตรเฉพาะเป็นของตัวเองนะ และต้องไม่เหมือนใคร ถ้าทำได้คุณก็สามารถมีรายได้มากมายในอาชีพนี้ เพราะไส้กรอกอีสานสามารถทำเป็นของฝากได้

สูตรไส้กรอกอีสาน สูตรนี้เป็นสูตรดั้งเดิมสมัยโบราณ สมัยนี้ไม่ค่อยมีใครใส่หนังหมูในไส้กรอกกันแล้ว แต่ workdeena ชอบไส้กรอกใส่หนังหมูนะ เพราะรู้สึกว่ามันได้กินไส้กรอกอีสานจริงๆ เรามาดูวิธีทำไส้กรอกอีสานกันดีกว่า(ถ้าใครทำอร่อยกว่านี้ ก็อย่าว่ากันนะ)

ส่วนผสม : ไส้กรอกอีสาน
  1. หมูเนื้อแดง 10 กิโลกรัม
  2. หนังหมูติดมัน 2.5 กิโลกรัม
  3. ไส้หมู 1 กิโลกรัม
  4. กระเทียม 1/2 กิโลกรัม (กระเทียมกลีบเล็ก)
  5. ข้าวสุก 2 กิโล
  6. พริกไทยพอประมาณ
  7. เกลือพอประมาณ
  8. ผงชูรสนิดหน่อย

วิธีทำ : ไส้กรอกอีสาน
  • ให้นำไส้หมูมาล้างให้สะอาด และอย่าลืมกลับด้านในออกมา เพื่อขูดเอาเมือกออกให้หมดจนไส้ใส ระวังอย่าให้ไส้หมูขาดนะ
  • ให้เตรียมหมูเนื้อแดงมาบดหยาบๆ ไว้
  • ส่วนหนังหมูก็ให้ต้มพอสุก แล้วหั่นเป็นฝอยบางๆ เตรียมไว้นะ
  • นำกระเทียมมาสับให้ละเอียด แต่อย่าแกะเปลือกออกนะ เพราะจะทำให้หอมมากขึ้น
  • แล้วให้นำเนื้อหมู, หนังหมู, ข้าวสุก, กระเทียม, พริกไทย, เกลือ และผงชูรส นวดรวมกันประมาณ 15 นาที แลัวหมักที่ไว้ประมาณ ครึ่งชั่วโมง เพื่อให้ออกรสเปรี้ยว
  • หลังจากนั้น ให้กรอกใส่ไส้หมูที่ทำสะอาดไว้แล้ว
  • วิธีการกรอก อาจใช้เครื่องกรอกก็ได้ถ้ามี หรือถ้าคุณคิดจะทำเป็นอาชีพจริงๆ ราคา / เครื่องประมาณ 2,000 บาท แต่ถ้ายังไม่มีทุน หรือยังไม่แน่ใจว่าจะทำเป็นอาชีพดีหรือเปล่า ก็อาจใช้ปากขวดพลาสติก ตัดเป็นกรวย แล้วกรอกก็ได้เช่นกัน
  • เมื่อคุณกรอกเสร็จแล้ว ให้ใช้เชือกเล็กๆ ผูกเป็นระยะ ยาวตามที่ต้องการ แล้วนำไปแขวนตากลมไว้ ให้ไส้หมูแห้งตึง แล้วส่งขาย หรือย่างขายได้เลย

** เคล็ดลับการทำไส้กรอกอีสาน
  • คือ การล้างไส้หมู ถ้าล้างไม่ดีจะทำให้มีกลิ่น จึงควรขยำกับเกลือพร้อม ๆ กับขูดเมือกออก และในการใส่กระเทียม หรือพริกไทย อย่ามากเกินไปนะ

- การทำอาชีพเสริม เราสามารถทำกันได้ทุกคน เพียงแค่อย่าอาย อย่ากลัวเหนื่อย และอย่าท้อ ต้องตั้งใจ ต้องสู้ workdeena ผ่านเรื่องแบบนี้มามากแล้ว กว่าจะมีอย่างเช่นทุกวันนี้ workdeena ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆ คน

วิธีทำกุนเชียง

"การทำกุนเชียง"

"ลิขิตฟ้า หรือจะสู้ มานะคน"





สูตรการถนอมอาหารสูตรแรกนี้ workdeena อยากแนะนำให้เพื่อนๆ ได้ลองทำกันดู สูตรนี้คือ "การทำกุนเชียง" เพราะการทำกุนเชียงนี้ สามารถเป็นอาชีพอิสระที่อาจทำให้เพื่อนๆ ร่ำรวยได้ (หากมีการตลาดที่ดี) สินค้าชนิดนี้สามารถเก็บไว้ได้นาน และเป็นที่นิยมของตลาด



สิ่งที่ต้องเตรียม

เครื่องมือสำหรับกรอก จะใช้เป็นเครื่องก็ได้ หรือเป็นกรวยสังกะสีก็ได้ แต่ถ้าใช้เครื่องกรอกก็จะทำให้เร็วขึ้น และกุนเชียงที่ได้ ก็จะสวยและดี

ต่อไป workdeena จะพาไปดูส่วนผสมว่ามีอะไรบ้าง

ส่วนผสม
  1. เนื้อหมู 5 กิโล
  2. มัมหมู 3 กิโล
  3. อบเชยบดละเอียด 50 กรัม
  4. ดินประสิม 1/2 ช้อนชา
  5. ผลพะโล้ 100 กรัม
  6. น้ำตาลปี๊บ 170 กรัม
  7. เหล้าจีน
  8. เกลือป่นพอประมาณ
  9. สีผสมอาหารสีแดง

วิธีทำ
  • สับหมูให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ และมันหมูก็หันเป็นชิ้นเล็กๆ ด้วย เอาส่วนผสมทุกอย่างลงคลุกให้เข้ากันในอ่าง แล้วเอาเนื้อหมูลงไปคลุกให้เข้ากัน แล้วชิมดูว่าขาดรสชาติอะไรก็เต็มลงไป
  • แล้วเราก็เอาไส้หมูหมักเกลือ ที่มีขายอยู่ในตลาด นำมาล้างน้ำให้ดี แล้วก็กรอกหมูที่เราผสมไว้ลงในไส้
  • ดูประมาณความยาวแต่ละเปลาะ ประมาณ 5-6นิ้ว
  • **อย่าลืมเอา เข็ม หรือไม้แหลม แทงที่ไส้ที่เรากรอกแล้วให้เป็นรู รอบกุนเชียง ที่ต้องทำเช่นนี้เพื่อให้น้ำระเหยออกไป ไม่เช่นนั้นจะทำให้กุนเชียงเน่าได้
  • ตากกุนเชียงทุกวันจนกว่าจะแห้ง แต่ถ้ามีตู้อบก็จะดีมาก

เพียงเท่านี้เราก็สามารถนำไปขายได้แล้ว workdeena จะบอกส่วนผสมอีกอย่างหนึ่งที่เขาปิดเป็นความลับกัีน เพื่อให้ขายได้กำไรมากขึ้น นั้นคือ เขาจะเอาหัวหมูมาบดให้ละเอียดมากๆ แล้วผสมลงไปในกุนเชียง จะทำให้ได้ปริมาณที่เพิ่มมากขึ้น

ถ้าใครสนใจอยากทำอาชีพนี้ ให้เป็นอาชีพอิสระเพื่อเลี้ยงครอบครัว workdeena ก็เห็นว่าเป็นอาชีพที่ใช้ได้นะ เพราะคนนิยมทาน และนิยมนำไปเป็นของฝาก

วิธีทำแหนม

การทำ แหนมหมู

"ลิขิตฟ้า หรือจะสู้ มานะคน"



ครั้งนี้ workdeena ได้นำการถนอมอาหาร เพื่อเป็นอาชีพอิสระอีกอาชีพหนึ่ง มาฝากเพื่อนๆ หลายๆ คนอาจจะเคยทาน แต่อีกหลายๆ คนอาจทานไม่เป็นก็ได้ นั้นก็คือ "แหนมหมู" อาหารชนิดนี้อยู่คู่ไทยมานานมาก จากที่เมื่อก่อนนี้เราจะกินกันแบบดิบๆ คื่อ พอเอาใบตองออก ก็ทานกันเลย แต่ปัจจุบันนี้ เรานำมาปรุงให้สุกก่อน เช่น
  • ข้าวผัดแหนม
  • แหนมปิ้ง
  • แหนมชุบไข่ทอด
  • กระเพาะแหนม
  • ยำแหนม (แต่เขาจะแหนมไปนึ่งก่อนนะ)

เมื่อแหนมสามารถนำมาทำ อาหารได้หลายอย่างเช่นนี้แล้ว เราก็ลองมาดูส่วนผสม และวิธีทำกันดีกว่า ว่ามันจะทำอยาก ง่ายเพียงใด

ส่วนผสม
  1. เนื้อหมูไม่ติดมัน 1 กิโล
  2. หนังหมู ต้มแล้วหั่นเป็นเส้นเล็กๆ 1/2 กิโล
  3. กระเทียม 5-6 หัว
  4. ข้าวสุกบดละเอียด 1 ถัวย
  5. ดินประสิว 1/2 ช้อนชา
  6. เกลือ 2 ช้อนโต๊ะ
  7. พริกขี้หนูสด
  8. ใบตอง

วิธีทำ
  • เอาเนื้อหมูมาสับให้ละเอียด
  • กระเทียมปลอกเปลือก แล้วโขลกพร้อมกับเกลือและดินประสิวให้ละเอียด
  • จากนั้นเราก็นำกระเทียมที่โขลกพร้อมกับส่วนผสมอื่นๆ มาคลุกเคล้ากับข้าวสุกบดละเอียดที่เราเตรียมเอาไว้ให้เข้ากัน
  • เมื่อเข้ากันดีแล้ว ในเราเอาหมูที่เราสับแล้ว พร้อมทั้งหนังหมู ลงไปคลุกเคล้ากับข้าวสุก นวดให้เหนียวและให้เข้ากัน
  • เมื่อเมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้นำใบตองมาห่อ คือ ตักหมู 1 ช้อน ว่างลงบนใบตองและว่างพริก 1 เม็ดบนแหนมหมู แล้วก็ห่อให้เรียบร้อย
  • หลังจากนั้นก็ เก็บไว้ประมาณ 1-2 วันแล้วก็เอาออกมาจำหน่วย หรือทานกันได้เลย

เพียงเท่านี้ เราก็สามารถทำเงินได้แล้ว workdeena อยากให้เพื่อนๆ ได้มีอาชีพอิสระกันทุกคน เพราะชีวิตของคนเราไม่มีอะไรแน่นอน วันนี้เราอาจมีงานทำ แต่พรุ่งนี้อาจตกงานก็ได้ หรือวันนี้อาจไม่มีจะกิน แต่พรุ่งนี้ร่ำรวยเป็น ร้อยล้านก็ได้ ไม่มีใครรู้ แต่ที่รู้ๆ วันนี้... เรายังมีชีวิตอยู่ ก็ต้องสู้กันต่อไป workdeena เป็นกำลังให้ เพื่อนๆ ทุกคนนะ