นาฬิกา

เซี่ยมซีหลวงพ่อพระชีว์

สรุปตลาดหุ้น

ตารางฟุตบอล

สร้างรายได้เพียงง่ายๆ

Subscribe in a reader Google AdSense คือบริการจาก Google ที่ให้ผู้ที่มีเว็บไซต์ สามารถหารายได้โดยการนำ Code ที่ได้จากการสมัครเป็นสมาชิกของ Google มาใส่ไว้ที่เว็บไซต์ของตนเอง ซึ่ง Code นั้นจะเป็น โฆษณาที่ส่งมาจาก Google โดยโฆษณานั้น ๆ จะเป็นโฆษณาที่มีเนื้อหาสอดคล้องกับเนื้อหาของเว็บไซต์ของคุณ ตัวอย่างเช่นถ้าเว็บไซต์ของคุณเป็นเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว โฆษณาที่ส่งมาจาก Google ก็อาจเป็นเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับ โรงแรม,สายการบิน เป็นต้น

ข้อความ

ข้อความ

วันศุกร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ใส่รูอีโมFacebook


กดไลน์ ใส่รูปไอคอนแสดงอารมณ์ในเฟสบุ๊คแชท (Emoticons Facebook Chat Code)

การคุยหรือแชท(Chat)กับเพื่อนๆทางเฟสบุ๊ค(Facebook) หลายๆคนอาจไม่รู้ว่า การแชทแบบนี้เราสามารถใส่รูปอีโมติคอน (Emoticon)ที่เป็นการ์ตูนส่งให้กับเพื่อนเราได้ อาจจะเป็นรูปที่ไม่ใหญ่ แตเป็นไอคอนที่สามารถแสดงอารมณ์แบบน่ารักๆได้เช่น ยิ้ม, โกรธ, ร้องไห้ หรือ จูบ เป็นต้น มีหลากหลายรูปแบบ โดยพิมพ์เพียงไม่กี่ตัว รูปอีโมติคอน(Emoticon) ก็จะปรากฏในกล่องแชทของเราให้เพื่อนๆเห็น แนะนำวิธีง่ายๆ เราอาจไม่ต้องจำหรือไม่ต้องพิมพ์ ให้เรา Save ใส่โปรแกรมที่สามารถก็อบปี้ตัวอักษรได้อย่างเช่น Microsoft word หรือ Excel โดยถ้าเราต้องการใช้รูป Emoticon เราก็ก็อบปี้มาใช้ได้อย่างรวดเร็ว





smile Facebook Chat: Emoticons, Tips & Tricks To Enhance Conversationยิ้ม:)
frown Facebook Chat: Emoticons, Tips & Tricks To Enhance Conversationเสียใจ:(
tongue Facebook Chat: Emoticons, Tips & Tricks To Enhance Conversationแลบลิ้น:P
grin Facebook Chat: Emoticons, Tips & Tricks To Enhance Conversationยิ้มกว้าง:D
gasp Facebook Chat: Emoticons, Tips & Tricks To Enhance Conversationตกใจ:O
wink Facebook Chat: Emoticons, Tips & Tricks To Enhance Conversationขยิบตา;)
glasses Facebook Chat: Emoticons, Tips & Tricks To Enhance Conversationแว่น8)
sunglasses Facebook Chat: Emoticons, Tips & Tricks To Enhance Conversationแว่นตากันแดด8|
grumpy Facebook Chat: Emoticons, Tips & Tricks To Enhance Conversationโกรธ>:(
unsure Facebook Chat: Emoticons, Tips & Tricks To Enhance Conversationคิด:\
cry Facebook Chat: Emoticons, Tips & Tricks To Enhance Conversationร้องไห้:’(
devil Facebook Chat: Emoticons, Tips & Tricks To Enhance Conversationปีศาจ3:)
angel Facebook Chat: Emoticons, Tips & Tricks To Enhance ConversationเทวดาO:)
kiss Facebook Chat: Emoticons, Tips & Tricks To Enhance Conversationจูบ:-*
heart Facebook Chat: Emoticons, Tips & Tricks To Enhance Conversationหัวใจ<3
kiki Facebook Chat: Emoticons, Tips & Tricks To Enhance Conversationความสุข^_^
squint Facebook Chat: Emoticons, Tips & Tricks To Enhance Conversationฝัน-_-
confused Facebook Chat: Emoticons, Tips & Tricks To Enhance ConversationสับสนO.o
upset Facebook Chat: Emoticons, Tips & Tricks To Enhance Conversationบ้าคลั่ง>:o
pacman Facebook Chat: Emoticons, Tips & Tricks To Enhance Conversationpacman:v
colonthree Facebook Chat: Emoticons, Tips & Tricks To Enhance Conversationปากโค้ง:3
robot Facebook Chat: Emoticons, Tips & Tricks To Enhance Conversationหุ่นยนต์:|]
putnam Facebook Chat: Emoticons, Tips & Tricks To Enhance ConversationChris Putnam:putnam:
penguin Facebook Chat: Emoticons, Tips & Tricks To Enhance Conversationนกเพนกวิน<(")
shark Facebook Chat: Emoticons, Tips & Tricks To Enhance Conversationปลาฉลาม(^^^)
42 Facebook Chat: Emoticons, Tips & Tricks To Enhance Conversation42:42:
42 Facebook Chat: Emoticons, Tips & Tricks To Enhance Conversationถูกใจ(Y)

มีรูปอีโมติคอน(Emoticon)ในFacebookสองรูป ที่เพื่อนๆบางคนอาจไม่รู้ว่าคือใครและอะไร นั่นก็คือ Chris Putnam และ หมายเลข 42  ชื่อ Chris Putnam คือชื่อของ Engineer ของ Facebook ที่โดนเพื่อนๆแกล้งโดยเอารูปใบหน้าที่ถูกถ่ายตอนเผลอ มาทำเป็นรูปอีโมติคอน(Emoticon)ใน Facebook Chat และ 42 คือ เลขที่เกี่ยวกับคำตอบที่เป็นที่สุดของชีวิตและจักรวาล ใครต้องการอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมก็ให้เข้าเว็บไซต์ Wikipedia แล้วพิมพ์ที่ช่องค้นหาว่า Answer to the Ultimate Question of Life, the Universe, and Everything (42)สำหรับคนที่เก่งภาษาอังกฤษนะครับ

วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

วิธีทำซาลาเปา


ก่อนอื่นต้องขออธิบายก่อนนะครับว่า ซาลาเปาแบ่งออกเป็น 2 ชนิดด้วยกัน
1. ซาลาเปาต่อเชื้อ หรือซาลาเปาหน้าแตก เป็นซาลาเปาที่ต้องหมักต่อเนื่องกัน 3 วัน เนื้อซาลาเปาจะละเอียด หน้าจะแตกแบบปุยฝ้าย

2. ซาลาเปายีสต์ สามารถทำเสร็จได้ในวันเดียวจะคล้ายๆกับขนมปังเอาไปนึ่งครับ สามารถทำได้ในเวลาไม่นาน หน้าจะไม่แตกแต่จะเป็นรอยตามที่เราจีบเท่านั้น

ซึ่งวันนี้เราจะมาสอนการทำซาลาเปาแบบที่2กันครับ
มาเริ่มจากการทำไส้ก่อนเลย
ไส้ยอดนิยม ไส้หมูสับครับ

ส่วนผสมไส้หมูสับ
หมูสับ 600 กรัม
มันหมูแข็ง 200 กรัม
หัวหอมใหญ่ 200 กรัม หัวกลาง ๆ ประมาณ 2 หัว
รากผักชี 20 กรัม ประมาณ 10 ราก
กระเทียม 10 กรัม
พริกไทยป่น 30 กรัม
ซอสหอยนางรม 60 กรัม
ซอสปรุงรส 50 กรัม <<< แนะนำว่าน่าจะใช้ซีอิ๊วขาวนะครับ เพราะผมใช้ซอสภูเขาทองแล้วกลิ่นกับรสแอบแรงเกิน
น้ำตาลทราย 50 กรัม
น้ำมันงา 40 กรัม
แป้งข้าวโพด 20 กรัม
ต้นหอมซอย 20 กรัม
(อนึ่ง ... สัดส่วนของส่วนผสมไส้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามชอบนะครับ ไม่ตายตัว )

เริ่มการทำไส้ โดยการลำเลียงกระเทียม รากผักชี ใส่ครก แล้วตำๆๆๆๆๆ
สำแดงให้เห็นว่าเรามีสเน่ห์ปลายจวักแค่ไหน เสียงตำยิ่งต่อเนื่องสามีและแม่สามียิ่งรักยิ่งหลงนะคร้าบ
5555 (แต่ผมตำ3นาทีพัก5นาทีครับ555 เมื่อยมากๆ )


โขลกจนกระเทียม และรากผักชีพอละเอียด ใส่พริกไทยครับ จากนั้นโขลกให้เข้ากัน
พักไว้ก่อน


ซอยต้นหอม หัวหอมเป็นชิ้นเล็กๆ พักไว้เช่นกัน(แอบนอกสูตรใส่ผักชีไปด้วย แหะแหะ)


มันหมูแข็งหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่เครื่องบด


บดจนเนียนละเอียดเลยนะครับ


จากนั้นใส่หมูสับและเครื่องปรุงที่เหลือลงไป เคล้าพอเข้ากัน


ตามด้วยสามเกลอที่โขลกไว้ หัวหอม(แอบเอาไปผัดก่อน เพื่อดึงความหวานออกมา)
ต้นหอมซอย และผักชีนิดหน่อยครับ


เคล้าจนเข้ากันดีเป็นอันเสร็จส่วนของไส้หมูสับครับ เอา wrap ห่อเข้าตู้เย็นพักไว้
(ถ้าไม่แน่ใจเรื่องความเค็มหรือรสชาติเอาไป Microwave ชิมแล้วปรับเปลี่ยนได้นะครับ)

ทำไส้เค็มเสร็จแล้วก็มาต่อกันที่ไส้ครีมกันเลย
ส่วนผสมไส้ครีม
น้ำตาลทราย 250 กรัม
ผงคัสตาร์ด 2 ช้อนโต๊ะ
นมข้นจืด 100 กรัม
แป้งสาลี 2 ช้อนโต๊ะ
นมผง 2 ช้อนโต๊ะ
ไข่ไก่ 4 ฟอง
แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ
นมข้นหวาน 100 กรัม
วนิลา 1ช้อนชา
เนยจืดหรือมาการีน 200 กรัม ตั้งไฟให้พอละลาย


วิธีทำสุดง่ายครับ .... เททุกอย่างรวมกันโลด 


เติมกลิ่นวานิลลาเล็กน้อย ผมใส่แค่1/2ชช  ใครไม่ชอบไม่ใส่ก็ได้นะครับ


ผสมให้เข้ากัน เม็ดแป้งข้าวโพดพยายามบี้ๆให้แตกให้หมดนะครับ

นำส่วนผสมทั้งหมด ไปใส่ลังถึงที่น้ำเดือด นึ่งประมาณ30นาที ให้เปิดฝาเอาตะกร้อคนทุกๆ 10 นาที
คนจนเนื้อข้น สุกแห้ง


จะได้ข้นประมาณนี้ครับ นำออกมาทิ้งให้เย็น 

ต่อไปเป็นส่วนของตัวแป้งซาลาเปาครับ
ส่วนผสมของแป้งซาลาเปาแบบหน้าไม่แตกนี้มี 2 ส่วนครับ
เราจะเริ่มจากการทำแป้งเชื้อก่อน

ส่วนผสมแป้งเชื้อ
แป้งสาลีสำหรับทำซาลาเปา 350 กรัม
ยีสต์ 2 + 1/4 ช้อนชา
น้ำอุ่น 225 กรัม (อย่าให้ร้อนเกินนะครับ ไม่งั้นยีสต์ตายแป้งจะไม่ฟูนะเออ
ทดสอบโดยเอานิ้วจุ่มแล้วพอทนได้ถือว่าโอเคครับ)


แป้งผมใช้ยี่ห้อนี้ครับ กิเลนเหลือง ( ไม่มีก็ลองหาแป้งยี่ห้ออื่นก็ได้นะ
เอาที่เค้าระบุว่าสำหรับทำซาลาเปาโดยเฉพาะก็จะดีครับ )
ร่อนสัก 2 ครั้ง


จากนั้นเติมยีสต์ผงลงไป (ร่อนแป้งก่อนแล้วค่อยใส่ยีสต์นะครับ อย่าสะเหร่อแบบผม
ร่อนพร้อมกัน เดือดร้อนต้องมาเทตามทีหลัง เพราะยีสต์เนี่ยร่อนเท่าไหร่ก็ไม่ผ่านที่ร่อนแป้งเลยสักนิด
เล่นเอากล้ามขึ้น)

ค่อยๆรินน้ำอุ่นลงไปแล้วนวดๆๆๆๆ ให้เข้ากัน แรกๆแป้งเชื้อจะเละติดมือเหนอะหนะ
กลิ่นสุดบรรยาย ... ฟุ้งกระจายเต็มบ้าน
ไม่ต้องตกใจนะครับ นวดไปสักพักแป้งจะติดมือน้อยลง
นวดจนแป้งเนียนเข้ากัน ในขั้นนี้ถ้ามีแป้งเป็นผงๆติดก้นกะละมังเติมน้ำได้นิดหน่อยนะครับ


ประมาณนี้ก็ใช้ได้แล้วครับ ผมนวดประมาณเกือบๆ10นาที
จากนั้นใส่กะละมังปิดด้วย wrap
ทิ้งให้ขึ้น 2 เท่า




ตามสูตรจะให้พักไว้ประมาณครึ่งชั่วโมงนะครับ แต่ถ้าอากาศร้อนหน่อยแค่ราวๆ10นาทีก็ฟูแบบนี้แล้ว


แหวกๆดูแป้งจะเป็นใยๆแบบนี้

พอแป้งเชื้อขึ้น 2 เท่า ก็มาต่อกันที่แป้งส่วนที่ 2 กันเลยครับ

ส่วนผสมแป้งโด
แป้งเชื้อที่หมักไว้
แป้งสำหรับทำซาละเปา 150 กรัม
ผงฟู 2 ช้อนชา
น้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 125 กรัม
เกลือ 1 ช้อนชา
สารเสริมเอสพี 1 ช้อนชา
เนยขาว 50 กรัม


ร่อนแป้งกับผงฟูเข้าด้วยกันสัก 2 รอบครับ พักไว้ก่อน


หันมาดูในกะละมังแป้งเชื้อ
ใส่เกลือป่น น้ำตาลทราย และน้ำเปล่าลงไปในแป้งเชื้อที่ขึ้นฟูแล้ว
แป้งเชื้อจะอ่อนตัวลง เหลวขึ้น น้ำตาลทรายจะละลาย ตอนนี้แป้งจะแหยะๆหน่อยนะครับ
ขั้นนี้นวดนิดหน่อยพอน้ำตาลละลาย


จากนั้นโกยแป้งเชื้อใส่กะละมังแป้งกับผงฟูที่ร่อนไว้ครับ (สภาพเละเทะมากตอนนี้)
นวดให้เข้ากันจนไม่เหลือแป้งที่เป็นผงๆครับ นวดไปสักพักแป้งจะเริ่มแห้งขึ้นไม่ติดตามมือ


พอเข้ากันดี เติม SP ลงไปครับ จากนั้นนวดให้พอเข้ากัน
( สารเสริมSP เป็น Emulsifying agent ตัวนึง  มีคุณสมบัติพิเศษ คือ ช่วยทำให้ เกิดฟองได้ดี
ซึ่งจากคุณลักษณะนี้ ทำให้เค้กหรือขนมที่ใส่ ทำง่ายขึ้นและไม่ยุบง่ายครับ
สามารถหาซื้อ SP ได้ตามร้านขายอุปกรณ์เบเกอรี่ทั่วไปครับ )


จากนั้นเติมเนยขาวลงไปครับ
(ถ้าไม่มีใส่น้ำมันพืชหรือพวกเนยที่ผลิตจากพืชก็ได้นะครับ
ตามสูตรที่ค้นๆมาเค้าจะไม่แนะนำให้ใช้เนยธรรมดา เพราะจะทำให้ซาลาเปาออกเหลืองและขุ่น)


นวดจนเนียนไม่สากมือ จากนั้นเอามาทุบๆชกๆสักหน่อยครับ


ประมาณนี้ก็ใช้ได้แล้วครับ


แบ่งแป้งเป็นก้อนๆขนาดประมาณ 25-28 กรัมต่อลูกครับ (ตามสูตรจะได้ประมาณ 30 ลูกครับ)
เอาผ้าขาวบางชุบน้ำหรือ
wrap คลุมไว้นะครับแป้งจะได้ไม่แห้ง


จากนั้นก็แผ่แป้งออก ใส่ไส้ตรงกลางแล้วค่อยๆจับจีบไล่ไปเรื่อยๆ
(ไม่สามารถถ่ายขั้นตอนมาให้ดูได้แต่ลองๆดูนะครับ แรกๆอาจจะจีบไม่สวย แต่เดี๋ยวก็โอเคเอง)


"ไอ่อ้วนนนน !!!! เอ็งจีบประสาอะไรฟระ ไม่เห็นสวยเลย !!!!!!!!!!"
<<< โดนบ่นไปหลายรอบเลยครับ 


จีบเสร็จวางบนกระดาษรองซาลาเปา (ของผมเอากระดาษ A4ตัดเอาครับ ใช้ได้เหมือนกัน)
ไอ้ที่จีบแล้วปิดไม่มิด หรือไม่สวยน่ะ ... ของคนที่โดนดุข้างบนนะครับ 



แล้วเอาไปนึ่งในรังถึง ใช้เวลาประมาณ15 นาทีครับ
เว้นที่เผื่อตอนซาลาเปาขยายด้วยนะครับ


15 นาทีผ่านไป มาดูผลงานกันหน่อย





แต่นแต๊นนนน .....

ผลลัพธ์ดังภาพครับ ... มีซาลาเปาเป็นดีซ่านด้วย แหะแหะ

ขอคอมเม้นท์เรื่องการห่อไส้ไว้นิดนึงนะครับ
ถ้าจีบไว้ไม่แน่น หรือปิดไส้ไม่มิด พอซาลาเปาขยายตัว จีบจะแตกไส้จะโผล่อย่างในภาพ
ถ้าเป็นไส้ครีม ห่อแล้วผิวด้านบนบาง จะเป็นดีซ่านเหมือนที่เห็นครับ
ต้องลองทำสัก2-3 ชุดจะเริ่มจับจุดได้ครับลองดูๆ

เทียบขนาดนึ่งแล้วกับยังไม่นึ่งหน่อย


ผ่าให้เห็นกันจะจะครับ ซาลาเปาแป้งบางๆนิ่มๆหอมๆ ไส้ตูมมมมมากๆ
ขายลูกละเท่าไหร่ดีเนี่ย 555

สูตรเค้าดีจริงๆนะครับแป้งนิ่ม ไส้อร่อยมากๆเลยล่ะ

เป็นยังไงบ้างครับ ไม่ยากใช่ไหมเอ่ย
หวังว่าทุกคนคงอิ่มอร่อยกับซาลาเปาสุดอร่อยสูตรนี้นะครับ

วันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2554

น้ำผลไม้ตามกรุ๊ป


น้ำผลไม้ที่ควรดื่มตามกรุ๊ปเลือด
คนเลือดกรุ๊ปโอ

ส่วนมากจะมีกรดในกระเพาะอาหารสูง สามารถย่อยอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ได้อย่างรวดเร็ว แต่ไม่ควรกินอาหารจำพวกแป้งมากเกินไป เพราะจะ ย่อยยาก เสี่ยงต่อโรคเบาหวานและโรคอ้วน
เครื่องดื่มที่เหมาะกับเลือดกรุ๊ปโอคือ
- น้ำสับปะรด
- น้ำลูกพรุน
แต่ไม่ควรดื่มน้ำแอปเปิล น้ำส้ม น้ำกะหล่ำปลี
เลือดกรุ๊ปเอ
เรียกว่าตรงข้ามกับกรุ๊ปโอ แทบจะทุกอย่าง เพราะเลือดกรุ๊ปนี้จะมีกรดในกระเพาะอาหารต่ำ จึงเหมาะกับอาหารมังสวิรัติและควรหลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงอาหารจำพวกอาหารสำเร็จรูป ช่น
- ไส้กรอก
- แฮม
เพราะอาหารจำพวกนี้มีสารดินประสิวที่ไปกระตุ้นให้เกิดมะเร็งในกระเพาะอาหาร
เครื่องดื่มที่เหมาะสมกับคนเลือดกรุ๊ปเอก็คือ
- น้ำแอปพริคอต
- น้ำแคร์รอต
- น้ำเซเลอรี
- น้ำเกรปฟรุต
- น้ำสับปะรด
- น้ำมะนาว
เพราะมี วิตามินซีสูง แต่ไม่ควรดื่มน้ำส้ม น้ำมะละกอ และน้ำมะเขือเทศ
เลือดกรุ๊ปบี
เป็นกรุ๊ปเลือดที่สามารถต้านทานโรคมะเร็งและโรคหัวใจได้ แต่ยังมีปัญหาเรื่องภูมิคุ้มกันของร่างกาย
จึงควรกินอาหารจำพวก
- ผักใบเขียว
- ตับ
- ไข่
- นมไขมันต่ำ
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญ
- น้ำกะหล่ำปลี
- น้ำแครนเบอร์รี่
- น้ำองุ่น
- น้ำมะละกอ
- น้ำสับปะรด
เป็นเครื่องดื่มที่เหมาะ แต่ให้ระวังการดื่มน้ำมะเขือเทศ
เลือดกรุ๊ปเอบี
คนเลือดกรุ๊ปนี้ เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งในกระเพาะอาหาร จึงควรรับประทานอาหารที่มีวิตามินซี เช่น
- บร็อกโคลี่
- เชอร์รี่
- ส้มโอ
- เกรปฟรุต
- กะหล่ำปลี
และดื่มน้ำแคร์รอต
- น้ำเซเลอรี
- น้ำแครนเบอร์รี่
- น้ำองุ่น
- น้ำมะละกอ
เพราะช่วยต้านมะเร็งได้ แต่ไม่ควรดื่มน้ำส้มเพราะทำให้ย่อยยาก
ผลไม้ล้างพิษ
การงาน อาชีพ เทคโนฯ no comments 
ในภาวะปัจจุบันมีหลายปัจจัยที่ทำให้เรา ต้องเลือกกิน เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่เข้าสู่ร่างกายแล้วย่อมมีผลตามมาทั้งสิ้น อาหารชนิดเดียวกันบางครั้งก็มีทั้งคุณทั้งโทษ วันนี้horapa.comขอแนะนำผลไม้ที่ใช้ล้างพิษในร่างกายค่ะ ผลไม้เหล่านี้หาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาดทั่วไปและราคาไม่แพงด้วยค่ะ
แอปเปิ้ล
เป็นผลไม้ที่ดีที่สุดสำหรับการขจัดของเสียออกจากร่างกาย สารเปกตินในแอปเปิ้ลจะช่วยนำสารพิษไปกำจัดทิ้ง ทั้งยังป้องกันไม่ให้โปรตีนในลำไส้เกิดการบูดเน่า แอปเปิ้ลยังมีเส้นใยมากจะทำหน้าที่เป็นไม้กวาด ทำความสะอาดลำไส้ช่วยให้ตับและระบบย่อยทำงานได้ดียิ่งขึ้น กระตุ้นน้ำย่อย นอกจากนี้ยังมีวิตามินและเกลือแร่ และยังเหมาะกับผู้ที่กำลังลดน้ำหนักอีกด้วยค่ะ
องุ่น
เป็นสารฟอกล้างสำหรับผิวหนัง ตับ ลำไส้และไตโดยเฉพาะ เนื่องจากองุ่นมีคุณสมบัติรักษาน้ำมูกที่จะออกมาจากเยื่อเมือกต่างๆในร่าง กาย องุ่นยังให้พลังงานสูงและนำไปใช้ได้ง่าย เกลือแร่อุดม ดังนั้นจึงช่วยบำรุงเลือดและซ่อมสร้างเซลล์ในร่างกาย
สับปะรด
มีเอนไซม์โปรเมลินสูง เอนไซม์ตัวนี้จะช่วยการทำงานของกรดไฮโดรคลอริกในกระเพาะ และช่วยทำให้ของเสียที่เป็นโปรตีนแตกตัวได้เร็วขึ้น เชื่อกันว่าสับปะรดช่วยรักษาอาการอักเสบในทางเดินอาหาร ช่วยในการซ่อมแซมส่วนต่างๆที่สึกหรอ ช่วยการทำงานของต่อมไร้ท่อและช่วยกำจัดน้ำมูก
มะละกอ มะม่วง แตงโม
ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันแต่มะม่วงมีสารสำคัญน้อยกว่ามะละกอเล็กน้อย ผลไม้ทั้งสองชนิดมีเอนไซม์ชื่อปาเปน ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับน้ำย่อยเปปซินในกระเพาะอาหาร ดังนั้นมันจึงช่วยทำให้ของเสียที่เป็นโปรตีนแตกตัวได้เร็วขึ้นเช่นเดียวกับ โปรเมลิน ทั้งมะละกอและมะม่วงดีสำหรับทำความสะอาดลำไส้และช่วยย่อยอาหาร เชื่อกันว่ามะละกอยังช่วยลดอาการซึมเศร้าได้อีกด้วย แตงโมมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ดังนั้นจึงช่วยฟอกล้างร่างกายได้เป็นอย่างดี ใช้รักษาแผลในกระเพาะ ลดความดันเลือดสูง ทำให้สบายท้อง น้ำคั้นจากเปลือกของแตงโมและเมล็ด หากดื่มก่อนกินเนื้อแตงโมในมื้ออาหารสักครึ่งชั่วโมง จะทำให้ได้ประโยชน์สูงสุด เนื่องจากเปลือกของแตงโมอุดมด้วยคลอโรฟิลล์และเมล็ดอุดมด้วยวิตามิน

วันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2554

วิธีทำน้ำส้มสายชูหมัก

วันอังคาร

การทำ น้ำส้มสายชูหมัก

"ลิขิตฟ้า หรือจะสู้ มานะคน"



วันนี้ workdeena จะแนะนำการทำ "น้ำส้มสายชูหมัก" ในบ้านเราโดยทั่วไปก็จะมีเพียงน้ำส้มสายชูกลั่น เป็นน้ำใสๆ สีขาว และมีไม่กี่ยี่ห้อ ที่เป็นที่ยอมรับ แต่ในต่างประเทศมีน้ำส้มสายชูมากมายหลายชนิด และมีหลายสี แล้วยังทำจากวัถุตดิบหลายอย่าง สูตรในการทำน้ำส้มสายชูในต่างประเทศ เขาจะเก็บเป็นความลับขอตะกูลเลยทีเดียว

บางคนก็ใช้วัถุตดิบชนิดเดียวกัน แต่ก็ได้น้ำส้มสายชูที่แตกต่างกันทั่งสี, กลิ่น, รส บางครอบครัวทำเป็นอุตสาหกรรมเล็กๆในครัวเรือน แต่มียอดการส่งซื้อไม่เล็กเลย บางคนก็ทำเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ส่งออกกันเป็นเรื่องเป็นราว นั้นก็เพราะความแปลกใหม่ของน้ำส้มสายชู

เพื่อนๆ ก็สามารถนำมาทำเป็นอาชีพอิสระได้ สูตรที่ workdeena จะบอกต่อไป เป็นสูตรการทำน้ำส้มสายชู แบบไทยๆ ซึ่งเป็นภูมิปัญญาของคนสมัยก่อน ถ้าเพื่อนๆ อยากนำไปดัดแปลง หรือลองทำ เพื่ออาชีพอิสระ workdeena ก็ยินดีอย่างยิ่ง

- การทำน้ำส้มสายชูนั้น สามารถทำได้จากวัตถุดิบหลายอย่าง เช่น
  • ข้าว
  • องุ่น
  • แอปเปิล
  • ผลไม้รวม
  • มะพร้าว
  • ปาล์ม
  • ลูกเกด
  • น้ำผึ้ง
  • น้ำอ้อย
  • น้ำสับปะรด

และยังสามารถใช้วัถุตดิบอื่นๆ ได้อีกนอกเหนือจาำกที่ workdeena ได้บอกไป เรามาดูวิธีการทำน้ำส้มสายชูหมักกันดีกว่า
ส่วนผสม - น้ำสัมสายชูจากน้ำอ้อย
  1. น้ำอ้อย 1ส่วน
  2. น้ำเปล่า 8 ส่วน
  3. ลูกแป้งข้าวหมาก 1/2 ลูก

วิธีทำ
  • ให้นำน้ำอ้อยมาผสมรวมกันกับน้ำเปล่า คนให้เข้ากัน
  • และให้ใส่ภาชนะที่สะอาด เช่น โหลแก้ว
  • หลังจากนั้นให้เติม ลูกแป้งข้าวหมากบดละเอียดลงไป
  • แล้วปิดปากโหล(ไม่ควรใช้ที่ปิดที่เป็นโลหะ) เก็บขวดโหลไว้ในที่อบอุ่น ทิ้งไว้ประมาณ 15 วัน ก็จะได้น้ำส้มสายชู ที่มีกลิ่นหอมของน้ำอ้อย แต่ยังกินไม่ได้่ ต้องนำมากรองโดยผ้าขาวบางเสียก่อน แต่บางคนก็เอามาต้มก่อนแล้วทิ้งไว้ให้ตะกอนนอนก้น แล้วก็ใช้ผ้าขาวบางกรอง จะได้น้ำส้มสายชูที่ใส

- นี่คือภูมิปัญญาของชาวบ้าน ที่ workdeena ได้เรียนรู้มาจากคนใกล้ชิด ถ้าใครลองเ

วิธีทำใส่กรอก

วันเสาร์

ไส้กรอกอีสาน

"ลิขิตฟ้า หรือจะสู้ มานะคน"

ไส้กรอกอีสาน อาชีพแบบบ้านๆ ที่ไม่ควรมองข้าม



วันนี้ workdeena นำอาชีพเสริมอีกชนิดหนึ่ง ที่สามารถทำรายได้ให้เราดีพอสมควร ไม่ว่าคุณอยู่ที่ไหนก็ขายได้ นั้นคือการทำ "ไส้กรอกอีสาน" เพื่อนๆ สามารถทำไส้กรอกอีสานเพื่อขายส่ง ตามร้านขายของชำ หรือร้านขายกับข้าวทั่วไปก็ได้ หรือจะย่างขายเองก็ได้เช่นกัน แต่ถ้าเพื่อนๆ อยากทำอาชีพนี้ให้สำเร็จ ต้องมีสูตรเฉพาะเป็นของตัวเองนะ และต้องไม่เหมือนใคร ถ้าทำได้คุณก็สามารถมีรายได้มากมายในอาชีพนี้ เพราะไส้กรอกอีสานสามารถทำเป็นของฝากได้

สูตรไส้กรอกอีสาน สูตรนี้เป็นสูตรดั้งเดิมสมัยโบราณ สมัยนี้ไม่ค่อยมีใครใส่หนังหมูในไส้กรอกกันแล้ว แต่ workdeena ชอบไส้กรอกใส่หนังหมูนะ เพราะรู้สึกว่ามันได้กินไส้กรอกอีสานจริงๆ เรามาดูวิธีทำไส้กรอกอีสานกันดีกว่า(ถ้าใครทำอร่อยกว่านี้ ก็อย่าว่ากันนะ)

ส่วนผสม : ไส้กรอกอีสาน
  1. หมูเนื้อแดง 10 กิโลกรัม
  2. หนังหมูติดมัน 2.5 กิโลกรัม
  3. ไส้หมู 1 กิโลกรัม
  4. กระเทียม 1/2 กิโลกรัม (กระเทียมกลีบเล็ก)
  5. ข้าวสุก 2 กิโล
  6. พริกไทยพอประมาณ
  7. เกลือพอประมาณ
  8. ผงชูรสนิดหน่อย

วิธีทำ : ไส้กรอกอีสาน
  • ให้นำไส้หมูมาล้างให้สะอาด และอย่าลืมกลับด้านในออกมา เพื่อขูดเอาเมือกออกให้หมดจนไส้ใส ระวังอย่าให้ไส้หมูขาดนะ
  • ให้เตรียมหมูเนื้อแดงมาบดหยาบๆ ไว้
  • ส่วนหนังหมูก็ให้ต้มพอสุก แล้วหั่นเป็นฝอยบางๆ เตรียมไว้นะ
  • นำกระเทียมมาสับให้ละเอียด แต่อย่าแกะเปลือกออกนะ เพราะจะทำให้หอมมากขึ้น
  • แล้วให้นำเนื้อหมู, หนังหมู, ข้าวสุก, กระเทียม, พริกไทย, เกลือ และผงชูรส นวดรวมกันประมาณ 15 นาที แลัวหมักที่ไว้ประมาณ ครึ่งชั่วโมง เพื่อให้ออกรสเปรี้ยว
  • หลังจากนั้น ให้กรอกใส่ไส้หมูที่ทำสะอาดไว้แล้ว
  • วิธีการกรอก อาจใช้เครื่องกรอกก็ได้ถ้ามี หรือถ้าคุณคิดจะทำเป็นอาชีพจริงๆ ราคา / เครื่องประมาณ 2,000 บาท แต่ถ้ายังไม่มีทุน หรือยังไม่แน่ใจว่าจะทำเป็นอาชีพดีหรือเปล่า ก็อาจใช้ปากขวดพลาสติก ตัดเป็นกรวย แล้วกรอกก็ได้เช่นกัน
  • เมื่อคุณกรอกเสร็จแล้ว ให้ใช้เชือกเล็กๆ ผูกเป็นระยะ ยาวตามที่ต้องการ แล้วนำไปแขวนตากลมไว้ ให้ไส้หมูแห้งตึง แล้วส่งขาย หรือย่างขายได้เลย

** เคล็ดลับการทำไส้กรอกอีสาน
  • คือ การล้างไส้หมู ถ้าล้างไม่ดีจะทำให้มีกลิ่น จึงควรขยำกับเกลือพร้อม ๆ กับขูดเมือกออก และในการใส่กระเทียม หรือพริกไทย อย่ามากเกินไปนะ

- การทำอาชีพเสริม เราสามารถทำกันได้ทุกคน เพียงแค่อย่าอาย อย่ากลัวเหนื่อย และอย่าท้อ ต้องตั้งใจ ต้องสู้ workdeena ผ่านเรื่องแบบนี้มามากแล้ว กว่าจะมีอย่างเช่นทุกวันนี้ workdeena ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆ คน